อย่าเป็นคนโง่ที่อวดฉลาด คนโง่และคนฉลาดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

Homeอย่าเป็นคนโง่ที่อวดฉลาด คนโง่และคนฉลาดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

อย่าเป็นคนโง่ที่อวดฉลาดคนโง่และคนฉลาดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้ เนื้อหาโดย luckyformeจงโง่เพื่อจะฉลาดอย่าเป็นคนโง่ที่ไม่รู้ตัวว่าโง่เพราะความโง่คือมหันตภัยที่ร้ายกาจที่สุดในหนังสือโง่ศาสตร์ให้ความหมายของคนโง่ว่า คนโง่คือคนที่สร้างความลำบากและความเสียหายให้ตัวเองและคนอื่น เป็นคนประเภทที่อันตรายที่สุด และอยู่รอบตัวเรามากเกินกว่าที่เราจะคาดคิด คนโง่ป่วนโลกโดยไร้ผู้นำ  ไร้กฎหมาย ไร้การควบคุม ไร้ระเบียบแบบแผน และไร้เหตุผล คนเหล่านี้จะหยุดยั้งความก้าวหน้าและความผาสุกทุกหัวระแหง ซึ่งคนประเภทนี้จะมีอยู่ทุกที่ ตั้งแต่ในกรุ๊ปไลน์ครอบครัว ห้องประชุมออฟฟิศ social media แม้กระทั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศ การสู้กับคนโง่นั้นเหนื่อยยิ่งกว่าสู้กับโจร ว่ากันว่าคนโง่นั้นสามารถกลายเป็นคนฉลาดได้ เพียงแค่พวกเขารู้ตัวว่าโง่ เพราะความโง่มักจะมาก่อนความฉลาดเสมอ ผู้ใดที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองโง่ย่อมไม่มีวันที่จะฉลาด การคิดว่าตนเองฉลาดจะทำให้ไม่เรียนรู้เพิ่มเติมและจะไม่ยอมรับฟังคนอื่นเลยในสังคมทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนอยู่หลายประเภท ซึ่งบางคนก็เข้าข่ายไม่มีใครอยากคบหาด้วยและบ่อยครั้งที่พวกเราไม่รู้ตัวเองว่า มีนิสัยส่วนตัวที่ทำให้คนรอบข้างต้องเบื่อหน่าย ในจำนวนนี้มีอยู่จำนวนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า  คนโง่แต่อวดฉลาด ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า คนโง่มักมีนิสัยที่แตกต่างจากคนฉลาดอยู่ 5 อย่างด้วยกันคือ 1.  คนโง่ชอบโยนความผิดของตัวเองให้คนอื่นคนโง่จะไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ และพวกเขามักจะโยนความผิดให้คนอื่นเสมอ ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตท (Michigan State University) พบว่า สมองของคนฉลาดจะมีปฏิกิริยาที่ต่างออกไปเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น พวกเขาจะรู้ว่าความผิดพลาดทุกอย่างคือบทเรียนให้ได้เรียนรู้ พวกเขาจะเรียนรู้เพื่อจะได้ไม่ทำผิดซ้ำสอง 2.  คนโง่มักจะคิดว่าตัวเองถูกเสมอในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งคนโง่จะเถียงอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ พวกเขาแทบจะไม่สนเลยว่าในวงสนทนานั้นมีคนฉลาดกว่าตัวเองอยู่ด้วยหรือไม่ ในขณะที่คนฉลาดจะเข้าใจ และพร้อมยอมรับในความคิดเห็นที่ต่างออกไปจากตัวเอง นักจิตวิทยาชื่อดังอย่าง David Dunning เผยว่า คนชราจะตั้งใจฟังและพิจารณาเรื่องทั้งหมดก่อนจะตัดสินใจที่จะพูดหรือทำอะไรออกไป 3.  คนโง่จะแสดงอาการโมโหและก้าวร้าวเพื่อกลบเกลื่อนเวลารู้สึกว่าอะไรไม่เป็นไปอย่างที่คิด รู้สึกว่าเริ่มจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ พวกเขาจะแสดงอาการโมโหและก้าวร้าวเพื่อกลบเกลื่อน ซึ่งจากการศึกษาพฤติกรรมโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตต(Michigan State University) ที่ใช้เวลานานถึง 22 ปี ค้นพบว่า ความก้าวร้าวและระดับ IQ มีความสัมพันธ์กัน โดยคนที่มีระดับความฉลาดน้อยจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากกว่า 4.  คนโง่จะไม่สนความต้องการและความรู้สึกของคนอื่นจากผลการศึกษาคนอเมริกันหลายพันคน จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส พบว่า คนที่มีไอคิวสูงมีแนวโน้มที่จะเข้าใจ เห็นอกเห็นใจคนอื่น แล้วหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ใครโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ทว่าคนโง่นั้น แทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่า คนอื่นจะมีความคิดต่างไปจากตัวเองได้อย่างไร เพราะเขาจะมองว่าการทำอะไรให้ใครโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมาเป็นเรื่องที่แปลก 5.  คนโง่คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นคนโง่มีแนวโน้มที่จะชอบวิจารณ์ เพราะคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น เพราะเขาเป็นคนที่ชอบตัดสินคนอื่นโดยมีความลำเอียงเป็นที่ตั้ง นักวิทยาศาสตร์พบว่า คนที่ไอคิวต่ำมีแนวโน้มชอบการลงโทษที่รุนแรง เกลียดคนที่รักชอบเพศเดียวกันและเหยียดเชื้อชาติ ถ้าหากว่าคุณกำลังทุกข์ใจเพราะใครบางคน จงสงสารเขาเพราะเขาอาจเป็นคนโง่ที่ไม่รู้ตัวเองก็ได้ คนโง่วิชาไม่หนักหนาเท่าโง่คุณธรรมในใจ คำพูดที่ไม่รู้ตัวว่าโง่นั้นน่าสงสาร พวกเขาจะคิดว่าพวกเขามีสติปัญญาและฉลาดเพียงพอแล้ว นั่นจึงทำให้ไม่พัฒนาและไม่หาทางเพิ่มพูนความรู้ พวกเขาเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง คนแบบนี้นอกจากจะไม่รู้ตัวเองว่าโง่แล้วยังด้อยปัญญาอีกด้วย คนด้อยปัญญาคือ คนที่เข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองรู้และมีนั้นมันใช่ที่สุดแล้ว  จึงทำให้พวกเขาปฏิบัติต่อคนอื่น ตัดสินคนอื่นและวิจารณ์คนอื่นจากโลกและทัศนคติของพวกเขาเอง ในทางตรงกันข้าม คนที่ตระหนักได้ว่าตัวเองยังไม่เก่งและยังไม่ฉลาดพอ มักจะหาทางพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นและฉลาดขึ้น พวกเขามักจะรับฟังแนวคิดที่แตกต่างเพื่อนำมาพิจารณา พวกเขาจะอยากรู้ให้มากกว่านี้ อยากดีให้มากกว่านี้ทั้งในด้านสติปัญญา อารมณ์ ความคิด การกระทำและการตัดสินใจ ดังนั้นจงโง่เพื่อจะได้ฟังมากขึ้น อ่านมากขึ้น ถามมากขึ้นและคิดทบทวนให้มากขึ้นจงโง่เพื่อที่จะได้เป็นคนที่เรียนรู้และพัฒนาไม่มีที่สิ้นสุด ท้ายที่สุดแล้วจงโง่เพื่อที่จะฉลาด ความฉลาดคือความสามารถในการคิด วิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และมีสติปัญญาที่หลักแหลม ในการตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ นักจิตวิทยาชื่อดังได้แบ่งความฉลาดออกเป็น 9 แบบดังนี้ 1.  ความฉลาดทางอารมณ์คือความฉลาดในการจัดการอารมณ์ของตนเอง คนที่มีความฉลาดทางด้านนี้ จะสามารถปรับตัวและทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างดี พวกเขาจะรู้ว่าควรทำตัวอย่างไร เพื่อยับยั้งชั่งใจกับเรื่องราวที่ทำให้อ่อนไหวได้ เพราะเขาจะเป็นคนที่มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส ปรับตัวเข้ากับโลกได้เป็นอย่างดี ผู้ที่มีความฉลาดทางด้านอารมณ์อาจไม่ได้เป็นผู้ที่มีความฉลาดทางด้านสติปัญญามากเท่าไหร่ พวกเขาไม่ได้มีระดับ IQ ที่สูงมาก แต่พวกเขาก็เป็นคนที่มีความสามารถและกล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง 2.  ความฉลาดด้านการแก้ปัญหาคือคนที่มีความสามารถวิเคราะห์ปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุผล อีกทั้งยังเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถ่องแท้ พร้อมรับกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที พวกเขาจะเป็นคนที่มองเห็นปัญหาเป็นเรื่องสนุก ตื่นรู้ที่จะสืบเสาะหาคำตอบ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรือความยากลำบากที่จะเกิดขึ้น เพราะเขาจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว 3.  ความฉลาดทางด้านการใช้สติปัญญาคือคนที่มีความสามารถในการคิด คำนวณ คิดวิเคราะห์ และแยกแยะได้อย่างมีเหตุผล พวกเขาจะมีความสามารถในการจดจำได้อย่างดีเยี่ยม มีทักษะในการพูด อ่าน เขียน ได้อย่างคล่องแคล่วและถูกต้อง โดยส่วนใหญ่แล้วเขาจะมีความเป็นเลิศทางด้านสติปัญญา มีความโดดเด่นในด้านวิชาการมากๆ ทักษะของคนกลุ่มนี้คือ คิดไว พูดไวและตอบไว 4.  ความฉลาดทางสังคมคือคนที่มีทักษะในด้านการสื่อสารและความเข้าใจคนอื่น ทั้งในเรื่องการพูด การเขียนและการแก้ปัญหา รวมทั้งการใช้ทักษะการสื่อสารอย่างมีเหตุผล พวกเขาสามารถปรับตัวเข้าหาผู้คนได้เป็นอย่างดี มีความโดดเด่นในเรื่องของการอยู่ร่วมกับผู้คนมากมายได้เป็นอย่างดี พวกเขามักจะเป็นคนที่ทำให้ผู้คนรอบข้างมีความสุขและมีรอยยิ้มเสมอ 5.  ความฉลาดด้านศีลธรรมและจริยธรรมคือคนที่สามารถใช้หลักธรรม ศีลธรรมและจริยธรรม ในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยยึดถือมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สามารถนำสิ่งเหล่านี้มาปฏิบัติต่อผู้อื่นและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ข้อดีของคนที่มีความฉลาดทางด้านศีลธรรมและจริยธรรมคือ เป็นคนที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นอย่างมาก เป็นคนที่คนอื่นไว้ใจปรับทุกข์ ขอคำปรึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างสบายใจ 6.  ความฉลาดทางด้านความคิดสร้างสรรค์คือคนที่สามารถคิด และจินตนาการให้ความคิดสร้างสรรค์กลายเป็นจริงได้ พวกเขาสามารถประดิษฐ์สิ่งนั้นๆขึ้นมาได้จากความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่ ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นด้วย 7.  ความฉลาดทางด้านการเล่นคือความสามารถของบุคคลที่มีมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งจะเกิดจากครอบครัวโดยเฉพาะพ่อและแม่ ที่จะหาของเล่นฝึกสมองมาให้ตั้งแต่เด็กๆ การได้เล่นของเล่นที่พัฒนาสมองตั้งแต่เด็กๆ จะสามารถต่อยอดการเล่นให้ดียิ่งขึ้นได้ จะทำให้ค้นพบวิธีใหม่ๆที่สร้างสรรค์อย่างคาดไม่ถึง 8.  ความฉลาดทางด้านการดูแลสุขภาพคือคนที่มีความสามารถในการเรียนรู้วิธีการดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี เพราะเขาจะเอาใจใส่สุขภาพของตัวเองอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การพักผ่อน การออกกำลังกาย รวมไปถึงการปฏิบัติตนให้ไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ พวกเขาจะดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงและรูปร่างดีอยู่เสมอ มันจึงส่งผลให้พวกเขาเป็นคนอารมณ์ดี และคิดบวกอยู่เสมอ 9.  ความฉลาดทางด้านการมองโลกในแง่ดีคือคนที่มีความคิดบวกอยู่เสมอ พวกเขาจะนำความคิดบวกออกมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ห่างไกลจากความเครียด เมื่อเกิดเหตุพวกเขาจะใช้ความคิดบวกยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น การเปลี่ยนมุมมองจากลบเป็นบวกนั้น สามารถทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ มนุษย์ทุกคนมีความฉลาดที่แตกต่างกันไปตามพันธุกรรม และสภาพแวดล้อมที่ถูกเลี้ยงดูมา ดังนั้นลองถามตัวเองดูว่า คุณมีความฉลาดด้านไหน ในเรื่องอะไร รีบหามันให้เจอแล้วนำมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

Subscribe for Offers

Payment Method

paycard1 paycard2 paycard3 paycard4 paycard5

@http://www.yingleyangle.com/ บอล สด man u 2023 All Copyrights Reserved.

top