ซาวน่าเกย์quotพื้นที่ปลอดภัยในมุมมืดบอร์ด เกย์ โพสท์โดย Mac Casanova               ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 การเป็น ‘เกย์’ หรือชายที่รักร่วมเพศ  นับเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ในสังคม จนนำมาสู่การทำร้ายร่างกาย และบางครั้งก็ถึงขั้นถูกจับกุม เพียงเพราะไปมีสัมพันธ์รักในบ้านของตัวเอง    เมื่อ ‘บ้าน’ ไม่อาจเป็นสถานที่ ๆ ปลอดภัยที่สุด การมีสัมพันธ์รักในที่สาธารณะ (ที่ลับตาคนในสังคม) จึงเกิดขึ้น              ปัจจุบัน ‘ซาวน่าเกย์’ ที่เป็นส่วนผสมของวัฒนธรรมซาวน่า และการปฏิสัมพันธ์ในที่สาธารณะ กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมย่อยของเกย์ทั่วโลก   คนนอกอาจมองซาวน่าเกย์ว่า คงเต็มไปด้วยการมั่วสุม และเรื่องโลกีย์  แต่ความเป็นจริงแล้ว ‘ซาวน่าเกย์’ เป็นมากกว่านั้น“มันคือพื้นที่ ๆ แสดงตัวตนว่า ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เป็นตัวของฉันเอง มาเจอกับคนที่คุยภาษาเดียวกัน คุยแล้วเข้าใจกันจริงๆ”               เพื่อให้เข้าใจซาวน่าเกย์มากขึ้นกว่าการอ่านข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต คุณ "อาร์ม" อัครเษรต เชวงชินวงศ์ อดีตผู้จัดการซาวน่าเกย์ชื่อดัง ที่ปัจจุบันเปิดซาวน่า KrubbBKK อยู่แถวพระโขนง ผู้อยู่ในวงการซาวน่ามานานหลายปี เคยเป็นทั้งผู้ใช้และผู้ให้บริการ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง "ซาวน่าเกย์" ไว้ว่า              ความจริงซาวน่าเกย์ก็คือ ธุรกิจเกี่ยวกับความเหงา  แต่เกย์อาจจะเหงามากหน่อย อาจเพราะเป็นเกย์ อยู่ในเมืองใหญ่ มีความกดดันสูง บางคนมาจากต่างจังหวัด เป็นลูกคนเดียว โดนเจ้านายด่าและอีกสารพัดความกดดัน แล้วเขาก็ต้องกลับไปนอนที่ห้องพัก 24 ตรม. สุดท้าย เขาก็ต้องหาที่ใดที่หนึ่งไว้พึ่งพิง  ดังนั้นบางคนการมาซาวน่าเกย์อาจไม่ได้มาเพื่อเซ็กซ์เพียงอย่างเดียว              อย่างที่บอก สำหรับเรามันคือ สถานที่เพื่อการพบปะ เช่น ซาวน่า KrubbBKK ที่เรากำลังจะเปิด เราอยากจะเปลี่ยนมุมมองของคนที่มองซาวน่าในทางลบ อยากเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เป็นคอมมูนิตี้มากขึ้น เป็นสถานที่ๆ คนอยากมาพบปะพูดคุยกัน มีคาเฟ่อยู่ข้างล่าง มีบ่อออนเซ็นอยู่ข้างบน เพื่อให้กลุ่มคนที่คิดว่าซาวน่าเกย์เป็นที่ๆ สกปรก เป็นสถานที่อันตราย เป็นสถานที่ๆ คนมามั่วกัน เราอยากจะลบภาพนั้นออกให้หมด อยากให้เป็นพื้นที่ๆ ทุกคนได้มาปลดปล่อย และแสดงตัวตนกันอย่างเต็มที่              บทสนทนาข้างต้นนี้ ช่วยทำให้เรามองเห็นภาพธุรกิจซาวน่าเกย์ และชีวิตของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศได้ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม สังคมยังคงกดดันคนกลุ่มนี้เสมอ เช่นเดียวกับเราที่อาจกำลังทำสิ่งเดียวกันโดยไม่รู้ตัว              โลกในศตวรรษที่ 21 ยังคงเป็นโลกที่ปากว่าตาขยิบ พื้นที่สาธารณะไม่ได้มีความหมายอย่างที่มันเป็น  คนกลุ่มหนึ่งไม่มีพื้นที่ หรือมีก็คงน้อยกว่าคนอื่น พวกเขาไม่อาจแสดงตัวตนที่แท้จริงได้เท่ากับเรา ดังนั้น พื้นที่เล็กๆ แห่งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อให้พวกเขาได้แสดงตัวตน เปลื้องเสื้อผ้า คลายกำหนัด และความกดดันจากสังคม  แล้วเปลือยให้เหลือแต่ ‘ตัวเอง’ จริงๆ เท่านั้น.